ทริปท่องเที่ยวเทศกาลระบำหน้ากากวัชระ พิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ที่จัดขึ้นเพียงปีละครั้ง สักการะวัดโบราณและเยี่ยมชมพิพิทธภัณฑ์สำคัญต่าง ๆ ชมวิถีชีวิตชนเผ่าเร่ร่อน (Nomadic People) พักผ่อนในเกอร์แบบพื้นเมือง ชมความงามของทุ่งกว้างตัดกับท้องฟ้าสีครามของมองโกเลีย ในช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามที่สุด นำโดย JKBoy
29 สิงหาคม - 5 กันยายน [8 วัน]
ราคา 98,000 บาท*
เทศกาลระบำหน้ากากวัชระ TSAM MASK DANCE FESTIVAL
ชมความงามของวัดโบราณ Amarbayasgalant Monastery (อารามวัดอมาบายัสกาลัน)
สักการะวัดและวังโบราณ เยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์หน้ากากและสถานที่สำคัญต่าง ๆ
ทะเลทรายโกบีน้อย (Elsen Tasarkhai)
ชมวิถีชีวิตชนเผ่าเร่ร่อนดั้งเดิม
พักผ่อนในเกอร์พื้นเมือง ขี่ม้า อูฐ จามรี ชมความงามของทุ่งกว้างตัดกับท้องฟ้าสีครามอันโด่งดังของมองโกเลีย
ขอเชิญคุณร่วมเดินทางสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งที่สุดของวัฒนธรรมและพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ ในมองโกเลีย ไปกับ JKboy เดินทางไปยังเส้นทางท่องเที่ยว ถ่ายภาพ สุด Exclusive เส้นทางใหม่ ที่ไม่เคยมีใครเข้าถึงมาก่อน
เดินทางสะดวกสบายตลอดทริปด้วยรถ 4x4 ส่วนตัว พักผ่อนสบายในกระโจม (เกอร์) สไตล์มองโกเลีย บริการห้องอาบน้ำและสุขาถูกสุขลักษณะ อาหารจัดเต็มตลอดทริป เดินทางท่องเที่ยวในช่วงเดือนใบไม้เปลี่ยนสีที่สวยงามและเย็นสบายที่สุดของปี ในพื้นที่ที่อากาศบริสุทธิ์และผู้คนเป็นมิตรที่สุดในโลก
เทศกาลระบำหน้ากาก (Tsam mask dance festival)
ระบำหน้ากากหรือรำวัชระ มีประวัติยาวนานจากทิเบตมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 8 โดยชุดและหน้ากากจะถูกสวมใส่โดยพระลามะหนุ่มเท่านั้น เพื่อให้สามารถเต้นรำไปพร้อมกับการแบกรับน้ำหนักของเครื่องเงินและทองเหลืองที่ประดับบนชุด หน้ากากแต่ละหัวเป็นตัวแทนของเทพเจ้า ปีศาจ สัตว์มายาในพุทธศาสนา โดยทุกหัวไม่มีการเจาะรูที่ตาเพื่อเป็นที่สถิตของเทพ ผู้ใส่ต้องมองจากทางช่องปาก ร่ายรำไปพร้อมกับจังหวะจากเครื่องดนตรีและบทสวดแสดงเป็นเทพและปีศาจพร้อมทั้งเลียนแบบการทำศึกระหว่างสองฝ่ายเพื่อกำจัดความชั่วร้าย หน้ากากทุกหัวถือเป็นภาชนะของเทพอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไม่ได้มีการใช้งานจะถูกเก็บรักษาในห้องพิธีและทำพิธีสวดมนตร์บูชาทุกวัน พระสูตรและพระตันตระมากมาย ได้กล่าวถึงอานิสงค์ของการประกอบพิธีเอาไว้อย่างชัดเจน เพียงมีโอกาสร่วมชมพิธี ก็มีอานิสงค์มากมายประมาณไม่ได้ ในงานพิธีกรรมจะมีพระลามะจากภูมิภาคต่าง ๆ มารวมตัวกันมากกว่า 20 ท่าน เพื่อร่วมร่ายรำในเทศกาลระบำหน้ากากที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของปี โดยเป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อการบูชาอย่างแท้จริง มิใช่เพียงการแสดงโชว์ที่จัดขึ้นเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวทั่วไปในเมืองหลวง
ชมความสวยงามของอารามวัดอมาบายัสกาลัน (Amarbayasgalant Monastery) ในนิกายพุทธวัชยานโบราณอายุกว่า 300 ปี ที่รอดพ้นจากการถูกทำลายในช่วงสงคราม สถานที่ที่มีพิธีกรรมศักดิ์สิทธิ์ซ่อนตัวอยู่จากโลกภายนอก
ทะเลทราย Elsen Tasarkhai หรือที่รู้จักกันในนามทะเลทรายโกบีน้อย พักผ่อน ถ่ายรูป และขี่อูฐเที่ยวชมทะเลทรายมองโกเลียที่มีภูมิประเทศเป็นเอกลักษณ์ ที่มีเนินทรายสลับกับทุ่งหญ้าเขียวและเบื้องหลังเป็นภูเขาตระการตา แตกต่างจากทะเลทรายในภูมิภาคอื่นๆ
วิถีชีวิตของชนเผ่าเร่ร่อน สัมผัสวิถีชีวิตชนเผ่าพื้นเมืองของประเทศมองโกเลีย ทดลองขี่ม้า อูฐหรือจามรี และร่วมกิจกรรมสันทนาการพื้นเมืองกับชาวบ้าน ฟังดนตรีพื้นเมืองและการร้องเพลงด้วยลำคอแบบตูวา (Mongolian Throat song) พักผ่อนในกระโจม (เกอร์) แบบพื้นเมืองที่ Nomadic Center of Mongolia
* รับจำนวนจำกัด
* เดินทางด้วยรถ Land Cruiser 4x4 พร้อมคนขับส่วนตัว (นั่งคันละ 3 ท่าน)
* ที่พัก 2 ท่านต่อห้อง หากต้องการพักเดี่ยว เพิ่มท่านละ 22,000 บาท
* ราคาทริป รวม ค่าที่พัก ค่ารถส่วนตัวพร้อมคนขับ มื้ออาหาร (ตามระบุในรายละเอียดทริป) ค่าแบบและกิจกรรม work shop ในการถ่ายภาพ ค่าวิทยากร ไกด์ท้องถิ่น และประกันการเดินทาง เรียบร้อยแล้ว
* ราคาทริป ไม่รวม ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ (ประมาณ 2x,xxx - 3x,xxxx บาทขึ้นกับสายการบิน), Tip ไกด์ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
รายละเอียดทริป
Day 1: 29 สิงหาคม 2567 : เดินทางสู่เมืองหลวงของมองโกเลีย
Meal: -/-/D
ที่พัก: โรงแรม Kempinski Hotel หรือเทียบเท่า
เดินทางจาก กรุงเทพฯ สู่เมืองอูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศมองโกเลีย เพื่อเข้าเช็คอินที่โรงแรม ใช้เวลาพักผ่อนและฟื้นฟูร่างกายหลังจากการเดินทางของคุณ ขึ้นอยู่กับเวลาที่มาถึงหากมีเวลาเพียงพอ แวะเที่ยวชมจัตุรัส Sukhbaatar เพื่อเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมอันยาวนานที่เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์ของมองโกเลีย
Day 2: 30 สิงหาคม 2567 : ชนเผ่าเร่ร่อน วิถีชีวิตชนพื้นเมืองแห่งมองโกเลีย
Meal: B/L/D
ที่พัก: กระโจมสไตล์มองโกเลีย (เกอร์)
หลังอาหารเช้าที่โรงแรม ออกเดินทางผจญภัยนอกเขตเมือง โดยขับรถประมาณ 50 กม. ไปยังศูนย์ชนเผ่าเร่ร่อนมองโกล เจาะลึกใจกลางวัฒนธรรมของชาวมองโกเลียดั้งเดิม เพลิดเพลินและมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ เช่น การขี่ม้า การยิงธนู และดื่มด่ำไปกับจังหวะของดนตรีพื้นเมืองและการร้องเพลงด้วยลำคอแบบตูวาของบทเพลงแบบดั้งเดิม (Mongolian Throat song) เมื่อสิ้นสุดวัน สัมผัสวิถีชีวิตของชนเผ่าเร่ร่อนที่แท้จริงด้วยการพักค้างคืนในในกระโจม (เกอร์) แบบพื้นเมืองที่ Nomadic Center of Mongolia และร่วมรับประทานอาหารเย็นมื้อต้อนรับตำรับเจงกิสข่านแท้ๆ ร่วมกัน
Day 3: 31 สิงหาคม 2567 : วัดอมาบายัสกาลัน
Meal: B/L/D
ที่พัก: กระโจมสไตล์มองโกเลีย (เกอร์)
รับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม วันนี้เป็นวันเดินทางโดยรถส่วนตัวขับเคลื่อนสี่ล้อ ขึ้นเหนือสู่เขต Selenge เพื่อไปยังวัดอมาบายัสกาลัน (Amarbayasgalant Monastery) หรือ "อารามแห่งความสงบสุข" เป็นวัดที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานกว่า 300 ปี และเป็นหนึ่งในสามศูนย์กลางสงฆ์ที่ใหญ่ที่สุดในมองโกเลีย โดยนับถือ นิกายเกลุกปา หรือ นิกายหมวกเหลือง อารามนี้เดิมสร้างขึ้นระหว่างปีคริสต์ศักราช 1727 และ 1737 โดยจักรพรรดิหย่งเจิ้งของจักรวรรดิแมนจู และอุทิศให้กับซานาบาซาร์ ผู้นำชาวพุทธและประติมากรชาวมองโกเลีย โดยพระศพของท่านที่กลายสภาพเป็นมัมมี่ได้ถูกเคลื่อนย้ายมาที่นี่ในปี 1779
อมาบายัสกาลัน เป็นหนึ่งในอารามไม่กี่แห่งที่รอดพ้นจากการถูกทำลายระหว่างช่วงการกวาดล้างจากลัทธิคอมมิวนิสต์ของสตาลินในปี 1937 ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีพระสงฆ์จำนวนมากถูกสังหาร มีการทำลายพระพุทธรูปและศาสนสถานทั่วมองโกเลีย นับเป็นอารามที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์เป็นอย่างยิ่ง
โดยวัดนี้เป็นสถานที่จัดพิธี Tsam Mask Dance Festival ซึ่งเป็นไฮไลน์ของการเดินทางในครั้งนี้
ระหว่างการเดินทางจะเป็น Road trip ที่ขับแบบ Off Road (ไม่มีถนน) โดยคนขับส่วนตัวที่ชำนาญเส้นทาง ลัดเลาะผ่านทิวทัศน์ทุ่งหญ้าและภูเขาสุดสายตาจรดขอบฟ้าอันเลื่องชื่อของมองโกเลีย โดยในช่วงที่เราเดินทางเป็นช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสีที่มีความงดงามและอากาศดีมากที่สุด พักรับประทานอาหารกลางวันระหว่างทาง โดยเราจะไปถึงวัดในช่วงบ่ายแก่ ๆ เมื่อไปถึงมีเวลาสำรวจความสวยงามของวัดและชมวิวความสวยงามของพระอาทิตย์ตกกับ Golden Stupa ณ เนินเขาหลังตัววัด รับประทานอาหารเย็นร่วมกันในที่พัก
Day 4: 1 กันยายน 2567 : พิธีระบำหน้ากากวัชระ ณ วัดอมาบายัสกาลัน
Meal: B/L/D
ที่พัก: กระโจมสไตล์มองโกเลีย (เกอร์)
ร่วมพิธีเทศกาลระบำหน้ากาก Tsam Maks Dance เต็มวัน
ระบำหน้ากาก หรือ Tsam เป็นศิลปะที่ซับซ้อนของศาสนาและวัฒนธรรม ซึ่งฝึกฝนโดยผสมผสานระหว่างร่างกาย ภาษา และอัจฉริยภาพทางปัญญาเข้าเป็นความหมายเดียวด้วย การเคลื่อนไหวในการร่ายรำ การสวดมนต์และการทำสมาธิ การแสดงระบำหน้ากากนี้ จึงดูราวกับว่าผู้พิทักษ์และเทพเจ้าได้ลงมาสถิตบนร่างกายของผู้ร่ายรำ
“Tsam” เป็นคำในภาษาทิเบต มีสองความหมาย ประการแรก หมายถึงการเต้นรำ ประการที่สอง หมายถึงการดับทุกข์ทางใจด้วยความว่างเปล่า แม้ว่าการแสดงระบำหน้ากาก ของชาวพุทธอาจถูกมองว่าเป็นการเต้นรำจากมุมมองทางศิลปะ แต่ในเชิงลึกแล้ว มันคือพิธีกรรมทางพุทธตันตระอันซับซ้อนและมีความหมายที่ลึกซึ้งมาก
ระบำหน้ากากนี้เป็นพิธีกรรมทางศาสนาที่มีความหมายที่เป็นความลับ กฎและการตีความจะถูกศึกษาโดยพระสงฆ์ที่มีความรู้ซึ่งบรรลุถึงระดับหนึ่งและปฏิบัติตามกฎอย่างเคร่งครัด ความจริงที่ว่ามันเป็นพิธีกรรมทางศาสนาสามารถพิสูจน์ได้ด้วยว่า การระบำหน้ากากนั้นทำร่วมกับการสวดมนต์ของชาวพุทธและการแสดงมีวันและสถานที่เฉพาะซึ่งได้ถูกคัดเลือกไว้ล่วงหน้า
ดังที่กล่าวไว้ข้างต้น ระบำหน้ากากจึงเป็นพิธีที่สำคัญของนิกายตันตระ มีเพียงพระสงฆ์ที่เตรียมตัวมาอย่างดีเท่านั้นที่ถูกคัดเลือกให้แสดง โดยจะจัดแสดงขึ้นตามข้อกำหนดบางประการและในบางสถานการณ์ เช่น การระบำหน้ากากจัดขึ้นเพื่อปราบและชำระสิ่งแวดล้อมภายนอก กำจัดโรคภัย ความทุกข์ยาก สงคราม ความอดอยาก ความยากลำบาก และแผ่ความเป็นสิริมงคล พระที่แสดงต้องมีคุณสมบัติเหมาะสมและเตรียมตัวสำหรับการแสดงด้วยการจำศีลทำสมาธิเพื่อชำระล้างจิตใจให้บริสุทธิ์
ชุดและหน้ากากที่ใช้ในพิธีจะถูกสวมใส่โดยพระลามะหนุ่มเท่านั้น เพื่อให้สามารถเต้นรำไปพร้อมกับการแบกรับน้ำหนักของเครื่องเงินและทองเหลืองที่ประดับบนชุด ซึ่งหนักและใช้เวลาในการแต่งกายนาน
หน้ากากทุกหัวถือเป็นภาชนะของเทพอันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อไม่ได้มีการใช้งานจะถูกเก็บรักษาในห้องพิธีและทำพิธีสวดมนตร์บูชาทุกวัน โดยแต่ละหัวจะเป็นตัวแทนของเทพเจ้า ปีศาจ สัตว์มายาในพุทธศาสนา ทุกหัวจะไม่มีการเจาะรูที่ตา เนื่องจากเชื่อว่าเป็นที่สถิตของเทพ ทำให้ผู้สวมต้องมองจากทางช่องปาก ร่ายรำไปพร้อมกับจังหวะจากเครื่องดนตรีและบทสวด แสดงเป็นเทพและปีศาจพร้อมทั้งเลียนแบบการทำศึกระหว่างสองฝ่าย
พระสูตรและพระตันตระมากมาย ได้กล่าวถึงอานิสงส์ของการประกอบพิธีเอาไว้อย่างชัดเจน เพียงมีโอกาสร่วมชมพิธี ก็มีอานิสงค์มากมายประมาณไม่ได้
จะเห็นได้ว่าระบำหน้ากากนี้ไม่ได้เป็นเพียงแค่มหรสพ หากแต่คือ "พิธีกรรม" อันศักดิ์สิทธิ์ เมื่อวัดจัดพิธีขึ้นในวาระพิเศษต่าง ๆ จึงควรไปชมโดยไม่ใช่เพียงเพื่อความสนุกสนานบันเทิง แต่ควรดูด้วยศรัทธา ด้วยความอุทิศตน และทรรศนะบริสุทธิ์ คล้ายผู้รำเป็นเทพที่มาปรากฏกายต่อหน้า หากทำได้เช่นนี้ กล่าวกันว่าจะสามารถปัดเป่าโรคร้ายอิทธิพลพลังที่ไม่ดีและอุปสรรคต่าง ๆ ลงได้
Day 5: 2 กันยายน 2567 : เดินทางสู่ทะเลทราย Elsen tasarkhai Meal: B/L/D
ที่พัก: กระโจมสไตล์มองโกเลีย (เกอร์)
หลังจากรับประทานอาหารเช้า เราจะออกเดินทางลงใต้ไปยังทะเลทราย Elsen Tasarkhai หรือ Mini Gobi เพื่อท่องเที่ยว ถ่ายภาพในช่วงแสงเย็นกับฝูงอูฐ และกลุ่มที่พักแบบเกอร์ ท่ามกลางเนินทะเลทรายสลับกับทุ่งหญ้าสเตป อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทะเลทรายในภูมิภาคแถบประเทศมองโกเลียเท่านั้น
Elsen tasarkhai เป็นส่วนหนึ่งของเนินทราย Mongol Els ซึ่งทอดยาวไปตามจังหวัด Tuv, Uvurkhangai และ Bulgan เนินทรายมีความยาวทั้งหมด 80 กม. โดยมี Khugnu Tarna เป็นถนนสายหลักที่แบ่งส่วนทางตอนใต้ของเนินทรายด้วยทรายมองโกเลียตอนเหนือ โดยมีแม่น้ำทาร์นาที่ไหลไปทางตะวันตกของเนินทรายทำให้มีความชุ่มชื้นอยู่ใต้พิภพ ดังนั้นไม้พุ่ม เช่น วิลโลว์ เอล์ม ด็อกวูด และไม้พุ่มจึงสามารถเติบโตได้ เกิดเป็นภูมิประเทศที่งดงามแปลกตา ทางทิศเหนือมีภูเขาหินและไม้ “คุ้งคัน” Ikh Mongol ซึ่งกำหนดจุดศูนย์กลางของมองโกเลียอยู่ทางตอนใต้ของเนินทราย ส่วนที่กว้างที่สุดของเนินทรายตั้งอยู่ในพื้นที่ภูเขา Ikh Mongol และครอบคลุมพื้นที่ 9-10 ตารางกิโลเมตร
รับประทานอาหารเย็น และพักผ่อนในเกอร์สไตล์มองโกเลีย ท่ามกลางทิวทัศน์อันสวยงามและโรแมนติกของทะเลทราย Elsen tasarkhai
Day 6: 3 กันยายน 2567 : เดินทางกลับสู่อูลานบาตอร์
Meal: B/L/D
ที่พัก: โรงแรม Kempinski Hotel หรือเทียบเท่า
ชื่นชมความงามและถ่ายภาพทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้นที่ Elsen tasarkhai หลังอาหารเช้า เราเดินทางกลับไปยังอูลานบาตอร์ ที่ซึ่งความทันสมัยและสมัยโบราณอยู่ร่วมกันอย่างไร้รอยต่อ หรือเลือกที่จะทำความเข้าใจประวัติศาสตร์ของมองโกเลียให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้นที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พิพิธภัณฑหน้ากาก สำรวจตลาดท้องถิ่น เที่ยวชมจุดสำคัญน่าเชคอินต่าง ๆ เช่น จตุรัสเจงกิสข่าน พิพิธภัณฑ์ศิลปะในตัวเมือง และชอปปิ้งของฝากและของที่ระลึกตามอัธยาศัย ของฝากยอดนิยมจากมองโกเลียที่แนะนำคือผลิตภัณฑ์ที่ทำจากผ้าแคชเมียร์ต่าง ๆ ทั้งเสื้อ ผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ หมวก ถุงมือ ถุงเท้า ซึ่งเป็นงานส่งออกมาตรฐานยุโรป ในราคาสบายกระเป๋า
Day 7: 4 กันยายน 2567 : สักการะวัดและอารามในเมืองหลวงแห่งวัฒนธรรม
Meal: B/L/D
ที่พัก: โรงแรม Kempinski Hotel หรือเทียบเท่า
หลังรับประทานอาหารเช้าที่โรงแรม สำรวจจิตวิญญาณและเสริมศิริมงคลด้วยการเยี่ยมชมสักการะ อารามโบราณที่มีชื่อเสียง อาทิ อารามกันดันเทกชินเลน (Gandantegchinlen Monastery) อารามวัดในศาสนาพุทธนิกายเกลุกที่ใหญ่และมีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่ง ประดิษฐานรูปปั้นพระอวโลกิเตศวรโบราณสูง 25 เมตร จากนั้นเยี่ยมชมวัดชอยจินลามะ (Choijin Lama Temple) สถานที่สำคัญที่ประดับประดาด้วยศิลปะทางพุทธศาสนาอันประณีต รวมไปถึงหน้ากากและเครื่องแต่งกายในพิธีกรรมระบำหน้ากากวัชระโบราณซึ่งนับเป็นสมบัติของชาติ
ในช่วงบ่าย ขึ้นไปยังอนุสรณ์สถาน Zaisan เพื่อชมทิวทัศน์มุมกว้างของเมืองที่แผ่กิ่งก้านสาขา ตามด้วยการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์พระราชวังบ็อกด์ข่าน (Bogd Khaan Palace Museum) อันน่าหลงใหล ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบราณวัตถุทางประวัติศาสตร์มากมาย ซึ่งนำเสนอเรื่องราวในอดีตอันสง่างามของมองโกเลีย
การเดินทางปิดท้ายด้วยอาหารค่ำอำลา ซึ่งเป็นโอกาสอันดีที่จะได้สะท้อนถึงการผจญภัยและการพักแรมในมองโกเลียของคุณ
Day 8: 5 กันยายน 2567 : เดินทางกลับโดยสวัสดิภาพ
Meal: B/-/-
ที่พัก: -
บอกลาดินแดนแห่งท้องฟ้าสีครามอันเป็นนิรันดร์ พร้อมนำความทรงจำของการเดินทางผ่านอารามโบราณ ชนเผ่าเร่ร่อน และจิตวิญญาณอันมีชีวิตชีวาของมองโกเลียติดตัวไปด้วย ออกเดินทางจากอูลานบาตอร์ด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยประสบการณ์ที่ถักทอเป็นผืนผ้าแห่งความทรงจำจากดินแดนที่น่าประทับใจแห่งนี้ เดินทางไปยังสนามบินเพื่อบินกลับสู่กรุงเทพ หรือจุดหมายของคุณ โดยสวัสดิภาพ
เกี่ยวกับการเดินทาง
ประเทศมองโกเลีย เป็นประเทศในทวีปเอเชียที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลใหญ่ มีพรมแดนทางเหนือติดกับประเทศรัสเซียและทางใต้ติดกับประเทศจีน ประเทศมองโกเลียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีความหนาแน่นของประชากรน้อยที่สุดในโลก ด้วยความที่มีพื้นที่เยอะแต่ประชากรน้อยมาก ประชากรส่วนมากจะอาศัยอยู่ที่อูลานบาตอร์ (Ulaanbaatar) เมืองหลวงของประเทศ
มองโกเลียมี 4 ฤดูด้วยกัน คือฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว อากาศในประเทศมองโกเลียในแต่ละฤดูจะต่างกันโดยเฉพาะในทะเลทรายที่อากาศจะแตกต่างกันอย่างสุดขั้ว อย่างในช่วงฤดูร้อน (ก.ค. – ส.ค.) อุณหภูมิอาจสูงขึ้นไปถึง 40 องศาเซลเซียส ส่วนในฤดูหนาว (พ.ย. – ก.พ.) ก็อาจหนาวถึงขั้น -40 องศาเซลเซียสกันเลยทีเดียว โดยในช่วงที่เดินทางไปเป็นช่วงฤดูใบไม้ร่วง ของประเทศมองโกเลีย อุณหภูมิช่วงกลางวันโดยประมาณ 15-20 องศาเซลเซียส และช่วงกลางคืนโดยประมาณ 10-12 องศาเซลเซียส ถือเป็นช่วงที่มีอากาศเย็นสบาย ผนวกกับภูมิประเทศที่เป็นที่ราบสูงท่ามกลางเทือกเขา ต้นไม้ใบไม้ในช่วงนี้ กำลังเปลี่ยนสีเป็นสีเหลืองแดง สลับกับทุ่งหญ้าที่เปลี่ยนเป็นสีเหลือง ทำให้เป็นช่วงที่มีทิวทัศน์ที่สวยงามเหมาะกับการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก
ทริปนี้เหมาะกับใครบ้าง ?
ทริปนี้สามารถเดินทางได้ ทุกเพศ ทุกวัย เป็นทริปท่องเที่ยวที่ละเมียดละไม เน้นสัมผัสประสบการณ์วัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์ เปี่ยมไปด้วยเสน่ห์และมนต์ขลังของระบำหน้ากากวัชระ วัดอาราม ความเชื่อและวิถีชีวิตของชาวมองโกเลีย การเดินทางทั้งหมดเดินทางด้วยรถขับเคลื่อนสี่ล้อพร้อมคนขับส่วนตัว (นั่ง 3 ท่าน/คัน) ให้ท่านได้สัมผัสประสบการณ์ผจญภัยไปในเส้นทางออฟโรด พร้อมกับชมวิวทิวทัศน์ภูมิประเทศสองข้างทางในระหว่างเดินทางได้อย่างเต็มอิ่ม ที่พักทุกค่ำคืนคัดเลือกเป็นอย่างดีให้มีความสะดวกสบาย และมีสาธารณูปโภคที่พร้อมและได้มาตรฐานสากล
Photo Tour คืออะไร ?
หาก ภาพถ่าย คือสิ่งที่จะช่วยบันทึกความทรงจำอันน่าประทับใจจากการเดินทางของคุณ แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าไปการดั้นด้นไปยังสถานที่ต่าง ๆ นั้น คุณได้มีโอกาสเก็บความประทับใจของวิวทิวทัศน์ เข้าถึงผู้คน และเรื่องราวของสถานที่นั้นในช่วงเวลาที่ดีที่สุด ผ่านมุมมองที่พิเศษที่สุดแล้วหรือยัง
ร่วมเดินทางไปกับเรา ผจญภัยไปในเส้นทางได้รับการสำรวจและวางแผนเป็นอย่างดีเพื่อประสบการณ์ที่น่าจดจำของคุณ นอกเหนือจากการท่องเที่ยวไปในสถานที่ซึ่งสวยงามแปลกตาแล้ว ยังได้สัมผัสเส้นทางวัฒนธรรมที่ unseen และไม่สามารถเข้าถึงได้จากคนทั่วไป ผ่านการขออนุญาตและประสานงานเป็นพิเศษเพื่อเจาะลึกเข้าไปในพื้นที่ นอกจากจะพาคุณไปยังสถานที่ท่องเที่ยวในช่วงเวลาที่ดีที่สุดแล้ว ยังได้สัมผัสกับผู้คนและวิถีชีวิตอย่างใกล้ชิดและเป็นมิตร ดูแลให้คำแนะนำข้อมูลต่าง ๆ รวมไปถึงเทคนิกการถ่ายภาพแบบมืออาชีพโดย JKboy ช่างภาพถ่ายภาพบุคคลและวัฒนธรรมผู้ได้รับรางวัลอันดับ 1 ในเวทีระดับโลกมาแล้วมากมาย ให้คุณได้สามารถเก็บภาพแห่งความประทับใจและความทรงจำพิเศษ กลับไปได้อย่างอิ่มเอมใจแบบมืออาชีพ ไม่ว่าคุณจะใช้กล้องโปร กล้องคอมแพค จนไปถึงกล้องจากมือถือ
ทริปของเราถูกออกแบบมาเพื่อให้การท่องเที่ยวมีความแปลกใหม่ เน้นการเข้าถึงบรรยากาศของสถานที่ในแต่ล่ะที่อย่างเจาะลึก เป็นเส้นทางวัฒนธรรมที่บุคคลทั่วไปหรือทัวร์ที่อื่นเข้าถึงได้ยาก โดยเฉพาะเส้นทางที่ต้องได้รับอนุญาตเป็นกรณีพิเศษ การเดินทางร่วมกับเราจึงสามารถสร้างประสบการณ์และความทรงจำพิเศษที่หาไม่ได้ทั่วไป หากท่านไม่ได้สนใจเรื่องการถ่ายภาพท่านสามารถชมทัศนียภาพโดยรอบและเพลิดเพลินกับวัฒนธรรมท้องถิ่นผ่านทางกิจกรรมเสริมต่าง ๆ ได้ นอกจากนี้ทางเรายังมีบริการถ่ายภาพให้แก่ลูกทริปเพื่อเก็บบรรยากาศการเดินทางอีกด้วย
ค่าใช้จ่ายและเงื่อนไขการจอง
ราคา 98,000 บาท/ท่าน
* รับจำนวนจำกัด
* เดินทางด้วยรถ Land Cruiser 4x4 พร้อมคนขับส่วนตัว (นั่งคันละ 3 ท่าน)
* ที่พัก 2 ท่านต่อห้อง หากต้องการพักเดี่ยว เพิ่มท่านละ 22,000 บาท
* ราคาทริป รวม ค่าที่พัก ค่ารถส่วนตัวพร้อมคนขับ มื้ออาหาร (ตามระบุในรายละเอียดทริป) ค่าแบบและกิจกรรม work shop ในการถ่ายภาพ ค่าวิทยากร ไกด์ท้องถิ่น และประกันการเดินทาง เรียบร้อยแล้ว
* ราคาทริป ไม่รวม ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ (ประมาณ 2x,xxx - 3x,xxxx บาทขึ้นกับสายการบิน), Tip ไกด์ และค่าใช้จ่ายส่วนตัว
** ต้องการเหมาจัดกรุ๊ปส่วนตัวแบบ Private ปรับเส้นทางและไฮไลน์ได้ตามความต้องการ ** นำเที่ยวโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทาง Line ID: @Jkboy หรืออีเมล์ iamjkboy@gmail.com
การชำระเงิน
ชำระ 30% เป็นค่ามัดจำทริป มูลค่า 30,000 บาท เพื่อสำรองที่นั่งในการเข้าร่วมทริป
ชำระ ส่วนที่เหลือ 68,000 บาท ภายในวันที่ 20 มิถุนายน 2567
รับชำระด้วย
การโอนเงินผ่านธนาคาร (ไม่มีค่าธรรมเนียม)
บัตรเครดิต (ไม่มีค่าธรรมเนียม*)
เงื่อนไขการจอง และการยกเลิก
การจองจะเสร็จสมบูรณ์ เมื่อทาง People and Their World Expedition Tours ได้ยืนยันยอดชำระเงินมัดจำในการจองเรียบร้อยแล้ว
ลำดับในการจองจะยืนยันตามลำดับในการชำระเงินมัดจำ
กรณีผู้เข้าร่วมทริปขอยกเลิกทริป ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนมัดจำทุกกรณี
ในการจองตั๋วเครื่องบิน PATW Expedition Tours มีบริการแนะนำเที่ยวบินที่เหมาะสม โดยยินดีช่วยประสานงานและบริการในการจองตั๋วโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ทั้งนี้เงื่อนไขในการรับบริการ การเปลี่ยนแปลงและการคืนเงินค่าตั๋วโดยสารขึ้นกับสายการบินผู้ให้บริการนั้น ๆ
กรณียกเลิกโดยลูกค้า
หากท่านมีเหตุสุดวิสัยที่ไม่สามารถเดินทางด้วยตนเองได้ สามารถเปลี่ยนชื่อผู้เดินทางเป็นบุคคลอื่นได้ ภายใน 10 วันก่อนการเดินทาง โดยไม่มีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมจากทางบริษัททัวร์ (ไม่รวมค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแปลงตั๋วเครื่องบิน ซึ่งขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของสายการบิน)
กรณีลูกค้าขอยกเลิกทริป ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนมัดจำทุกกรณี
กรณีลูกค้าขอยกเลิกทริป ภายใน 30-60 วัน ก่อนการเดินทาง ทางบริษัทคืนเงิน 50% ของยอดที่ได้รับชำระให้เป็นเครดิตเงินคืนให้กับลูกค้า สำหรับใช้เป็นส่วนลดในการเดินทางท่องเที่ยวหรือ work shop ในทริปอื่นๆ ของเรา (เครดิตเงินคืน มีอายุ 1 ปี)
กรณีลูกค้าขอยกเลิกทริป ภายใน 30 วันก่อนการเดินทาง จะไม่สามารถคืนเงินทั้งหมดได้ (ยกเว้นเงินรีฟันของตั๋วเครื่องบิน ตามเงื่อนไขของสายการบิน)
กรณียกเลิกโดยผู้ให้บริการ
กรณีมีเหตุสุดวิสัย เนื่องจากสภาพอากาศ โรคระบาด จลาจล หรือมีเหตุการณ์ความไม่ปกติอื่น ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นเหตุให้ไม่สามารถเดินทางได้ตามกำหนดเดิม ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนวันในการเดินทางออกไปตามความเหมาะสม
บริษัทได้ทำการสำรวจเส้นทางและการวางแผนการเดินทางโดยคำนึงถึงปัญหาส่วนใหญ่ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ไว้อย่างครอบคลุม และเตรียมพร้อมรับมือกับเหตุฉุกเฉินต่าง ๆ ไว้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตามระหว่างการเดินทางอาจมีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้นได้ บริษัทจึงขอสงวนสิทธิ์ในการเปลี่ยนแปลงโปรแกรมจากเหตุการณ์สุดวิสัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้ร่วมเดินทางเป็นสำคัญ อย่างไรก็ตามเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้โปรแกรมเป็นไปตามที่กำหนดไว้ทั้งหมด
กรณีผู้ร่วมเดินทางเข้าร่วมไม่ถึงจำนวนขั้นต่ำ ภายในเวลา 60 วันก่อนออกเดินทาง ทางบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการเลื่อนกำหนดการ หรือยกเลิกทริป
การตัดสินใจยกเลิกการเดินทางถือเป็นสิทธิ์ขาดของทางบริษัท กรณียกเลิกทริปโดยบริษัท ทางบริษัทยินดีคืนเงินเป็นเงินสดเต็มจำนวนที่ได้รับชำระมาแล้วคืนให้แก่ลูกค้า ภายใน 30 วัน ยกเว้นค่าตั๋วเครื่องบินที่มีการดำเนินการซื้อไปแล้ว ซึ่งอาจจะสามารถได้รับส่วนต่างการรีฟันตั๋วจากทางสายการบินเท่านั้น
*หมายเหตุ: กรณีมีเหตุให้มีการคืนเงินไม่ว่ากรณีใดก็ตาม สำหรับผู้ร่วมเดินทางที่ได้ชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิต ยอดเงินคืนสุทธิที่สามารถคืนได้จะถูกหัก 5% จากยอดการใช้จ่ายที่ท่านได้เคยชำระไว้เสมอ เนื่องจากเป็นส่วนต่างค่าดำเนินการด้านบัตรเครดิตของทางธนาคารผู้ให้บริการบัตรเครดิต
** ต้องการเหมาจัดกรุ๊ปส่วนตัวแบบ Private ปรับเส้นทางและไฮไลน์ได้ตามความต้องการ ** นำเที่ยวโดยทีมงานผู้เชี่ยวชาญ หรือขอข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อทาง Line ID: @Jkboy หรืออีเมล์ iamjkboy@gmail.com
Comentários